Differentiation Strategy บอกต่อเทคนิคตกแต่งโรงแรมที่ควรทราบ

ธันวาคม 22, 2023

อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สามารถเรียกลูกค้าได้ ถ้าหากเรารู้ดีว่าโรงแรมเราไม่สามารถต่อสู้กับกลยุทธ์ด้านราคา(Price Strategy)ได้ กลยุทธ์ที่ว่านี้คือกลยุทธ์ด้านการสร้างความแตกต่าง “Differentiation Strategy”

กลยุทธ์ความแตกต่าง เป็นการเพิ่มการให้บริการที่มีคุณค่าเพิ่มเติม เพื่อเป็นเหตุผลที่จะดึงลูกค้าให้เลือกพักโรงแรมของคุณ ประโยชน์ของกลยุทธ์นี้ที่เด่นชัดเลยคือ “การมีคู่แข่งที่น้อยราย” โดยเฉพาะกับโรงแรมใหม่ที่ยังไม่มีใครเหมือน ยิ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม(Value Added) ทำให้สามารถตั้งราคาขายห้องพักในราคาที่สูงได้ หลาย ๆ โรงแรมอาจทำกันอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายโรงแรมที่ไม่ทราบถึงกลยุทธ์นี้

วันนี้เราจะพูดถึง กลยุทธ์ความแตกต่างแบบ Emotional คือการสร้างความแตกต่างด้านอารมณ์และความรู้สึก เช่น การสร้างความภาคภูมิใจในการได้มาใช้บริการกับโรงแรม ทำให้แขกมีความรู้สึกว่า “ฉันได้มาที่นี่แล้วนะ” ที่เป็นความภูมิใจของแขกในการได้บอกต่อสิ่งนี้กับคนอื่น การมีมุมสวย ๆ ให้แขกถ่ายรูป มีจุดที่แสดงความเป็นอัตลักษณ์ของโรงแรมให้แขกได้สัมผัสและสร้างความสุขทางอารมณ์เป็นอีกจุดหนึ่งที่สำคัญ

แม้ว่าการตกแต่ง และออกแบบโรงแรมจะเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร แต่ถ้าหากเข้าใจไอเดียหลัก ๆ ที่สำคัญกับการตกแต่งโรงแรมแล้ว มันก็จะไม่ยากอย่างที่คิดกับ 7 เทคนิคตกแต่งโรงแรม

1. สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น

พื้นที่แรกที่แขกเห็นก็คือล็อบบี้ ดังนั้นการตกแต่งล็อบบี้จึงต้องใส่ใจในรายละเอียดให้มาก โดยอาจเลือกจับเทรนด์ที่น่าสนใจมาประยุกต์เข้ากับสไตล์ดั้งเดิมของท้องถิ่น หรือตกแต่งล็อบบี้ให้เข้ากับเทศกาลต่าง ๆ นอกจากนี้ควรทำให้พื้นที่บริเวณล็อบบี้สามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น มีมุมสังสรรค์พบปะพูดคุยหรือโซฟาให้นั่งรอขณะเช็คอิน, โซนจิบกาแฟเล็ก ๆ หรือมุมนั่งทำงานที่เพิ่มความสะดวกสบายด้วยเฟอร์นิเจอร์เก๋ ๆ สำหรับโรงแรมที่ไม่มีห้อง Work Space หรือห้องอาหาร เป็นต้น

2. บรรยากาศร้านอาหารต้องดี

นอกจากการคัดสรรเชฟฝีมือดีมาช่วยปรุงอาหารมัดใจผู้เข้าพักแล้ว ควรจะให้ความสำคัญกับบรรยากาศไปพร้อมกันด้วย โดยการจัดแสงสีให้สวยงาม หากรอบ ๆ มีวิวสวย ๆ อยู่แล้ว ก็ควรมีที่นั่งด้านนอกไว้ให้แขกได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด แต่ถ้าหากไม่มีก็ควรจัดร้านอาหารให้โล่ง สบาย มีลมพัดเข้า-ออกสะดวก หรือมีหน้าต่างให้แสงธรรมชาติพอเข้ามาด้านในได้บ้าง ไม่ควรปิดผนังจนทึบ

3. นำธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง

เทรนด์การตกแต่งแนวธรรมชาติค่อนข้างมาแรง หากลองปรับดีไซน์ภายในโรงแรมให้สอดคล้องกับธรรมชาติได้ก็น่าจะได้รับความสนใจไม่น้อย เช่น เปลี่ยนมาใช้หน้าต่างบานใหญ่เพื่อรับแสงและลมธรรมชาติ เลือกใช้วัสดุตกแต่งที่มาจากธรรมชาติ นวัตกรรมพื้นและผนังสีเขียว มีการรีไซเคิลขยะ จัดการระบบพลังงานน้ำและไฟฟ้าธรรมชาติ ผลิตวัตถุดิบอาหารออแกนิกส์และตามพื้นเมือง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ยังเป็นการสร้างภาพที่ดีให้กับโรงแรมได้อีกด้วย

4. สร้างจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์

เอกลักษณ์ของโรงแรมเป็นสิ่งแรกที่ควรกำหนดให้ชัดเจน เพื่อสร้างความน่าสนใจและไม่ให้กลมกลืนไปกับโรงแรมอื่น ๆ เช่น การนำศิลปะ ประติมากรรม มาตกแต่งผนังห้องพัก, รูปทรงเฟอร์นิเจอร์แปลกตา เช่น ตกแต่งด้วยสีสัน หรือมีธีมที่ตกแต่งภายในห้องพักที่แหวกแตกต่างไปจากที่อื่น เช่น ธีมทะเล เป็นต้น

5. เน้นธรรมชาติ แต่ต้องไม่ขาดความสบาย

แม้ว่าโรงแรมจะมีจุดยืนที่จะรักษาความเป็นมิตรกับธรรมชาติ แต่สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ก็ต้องจัดเตรียมให้พร้อม เช่น คอมพิวเตอร์ ปลั๊กไฟ Wi-Fi หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ

6. เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย

การตกแต่งโรงแรมไม่จำเป็นจะต้องทำให้หรูหราอลังการเสมอไป เพียงแค่ยึดแนวทางของโรงแรมไว้ แล้วดีไซน์ให้แขกที่มาพักรู้สึกและเข้าถึงให้ได้มากที่สุด เหตุผลที่ทำให้ลูกค้าติดตาตรึงใจถึงขั้นแวะเวียนกลับมาใช้บริการของโรงแรมอีก โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายไว้ก่อนจะลงมือตกแต่ง แล้วจะหาสไตล์การตกแต่งได้ง่ายขึ้น

7. มีมุมส่วนตัวแม้ในที่ส่วนรวม

แน่นอนว่าพื้นที่ส่วนตัวเป็นสิ่งที่โรงแรมต้องให้ความสำคัญกับลูกค้าแต่ละคนมากที่สุด ลูกค้าถือว่าความเป็นส่วนตัวอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน นั่นก็คือประสบการณ์ที่พิเศษสุด หากเราจัดหาให้ได้ก็จะทำให้ลูกค้ายอมยกใจให้กับโรงแรมของเราได้

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก : home.kapook.com

Sharing

Recommend

Sharing
พฤษภาคม 25, 2022

รูปแบบเตียงในโรงแรม

Sharing

Walks Tours ปรับแผนทัวร์ใหม่ เน้นการเที่ยวแบบออนไลน์

Sharing
กุมภาพันธ์ 19, 2025

SEO vs. SEM เครื่องมือไหนดีกว่าสำหรับธุรกิจโรงแรม ?

linkedin blockdit facebook Hotelsup